- Bare copper (สายทองแดงเปลือย)
ลักษณะ: เป็นสายทองแดงเปลือยที่ไม่มีการเคลือบผิวใด ๆ
ข้อดี:
- นำไฟฟ้าได้ดีเยี่ยมเนื่องจากเป็นทองแดงบริสุทธิ์
- ราคาถูกกว่าสาย Tinned copper (สายทองแดงเคลือบดีบุก)
ข้อเสีย:
- เกิดออกซิเดชั่น (Oxidation) ได้ง่ายเมื่อสัมผัสกับอากาศและความชื้นทำให้เกิดความต้านทานไฟฟ้าเพิ่มขึ้นและลดประสิทธิภาพการนำไฟฟ้า
- ไม่เหมาะกับสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูงหรือมีสารเคมีกัดกร่อน
- บัดกรีได้ยากกว่าสาย Tinned copper (สายทองแดงเคลือบดีบุก)
- Tinned copper (สายทองแดงเคลือบดีบุก)
ลักษณะ: เป็นสายทองแดงที่เคลือบผิวด้วยดีบุก
ข้อดี:
- ป้องกันการเกิดออกซิเดชั่นได้ดี (Oxidation) ทำให้คงประสิทธิภาพการนำไฟฟ้าได้นานกว่า
- ทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นและสารเคมีกัดกร่อนได้ดีกว่า
- บัดกรีได้ง่ายกว่าสาย Bare copper (ทองแดงเปลือย)
ข้อเสีย:
- ราคาสูงกว่าสาย Bare copper (ทองแดงเปลือย)
- การนำไฟฟ้าอาจลดลงเล็กน้อยเนื่องจากมีชั้นดีบุกเคลือบอยู่
การเลือกใช้:
- Bare copper (ทองแดงเปลือย):
เหมาะสำหรับงานเดินสายไฟภายในอาคารที่แห้งและไม่มีสารเคมีกัดกร่อน หรือในงานที่ต้องการการนำไฟฟ้าสูงสุดและไม่กังวลเรื่องการเกิดออกซิเดชั่น (Oxidation) เช่น งานระบบกราวด์
- Tinned copper (ทองแดงเคลือบดีบุก):
เหมาะสำหรับงานเดินสายไฟภายนอกอาคาร, ในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง, หรือในงานที่ต้องการความทนทานต่อการกัดกร่อนและการเกิดออกซิเดชั่น (Oxidation) เช่น งานเดินสายไฟในโรงงานอุตสาหกรรม, งานเดินสายไฟในเรือ หรือในงานที่ต้องการการบัดกรีที่ง่าย
สรุป:
สาย Bare copper (ทองแดงเปลือย) มีข้อดีที่การนำไฟฟ้าดีเยี่ยมและราคาถูก แต่ก็เกิดออกซิเดชั่น (Oxidation) ได้ง่าย ส่วนสาย Tinned copper (ทองแดงเคลือบดีบุก) มีข้อดีที่ป้องกันการเกิดออกซิเดชั่น (Oxidation) ได้ดีและทนทานต่อสภาพแวดล้อมต่างๆ แต่ก็มีราคาสูงกว่า การเลือกใช้ขึ้นอยู่กับลักษณะงานและสภาพแวดล้อมที่จะใช้งาน
คำแนะนำ:
หากไม่แน่ใจว่าควรเลือกใช้สายชนิดใด ควรปรึกษาช่างไฟฟ้าผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ได้คำแนะนำที่เหมาะสมกับงาน